กรุงเทพฯ – บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท หรือ “SVR” เดิมเกมรุก ประเดิมโครงการร่วมทุนโครงการแรกโซนบางปู 104 หลังปิดดีลผนึกกำลังกลุ่มพุทธพรมงคล สำเร็จ จ่อผุดโครงการ “สิวารมณ์ เนอเจอร์พลัส (บางปู 104)”มูลค่า 1,450 ล้านบาท คาดพรีเซลล์ปี2567 พร้อมทยอยรับรู้รายได้ทันที มั่นใจโปรเจกต์ใหม่สร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมหนุนการเติบโตให้ SVR มุ่งสู่ระดับ High Growth สอดรับกับเป้าหมายที่วางไว้
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “SVR” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยแนวราบแบบ เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯประกาศร่วมทุนกับ กลุ่มพุทธพรมงคล ล่าสุด เตรียมเปิดตัวโครงการแรก บนที่ดินแปลงติดสถานตากอากาศบางปู เทศบาลบางปู ซอย 104 จ.สมุทรปราการภายใต้ชื่อโครงการ “สิวารมณ์ เนอเจอร์พลัส (บางปู 104)” มูลค่า 1,450 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดพรีเซลล์ปี 2567 พร้อมทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทันที
สำหรับรูปแบบการพัฒนาโครงการจะถูกออกแบบภายใต้แนวคิดการจำลองบรรยากาศหมู่บ้านริมทะเลสไตล์นอร์เวย์ ด้วยบรรยากาศที่ดูมีสีสันสวยงาม ด้วยทำเลที่ดีที่สุดในสมุทรปราการ โดยในโครงการทุกหลังจะนำเอานวัตกรรม Smart Green Innovation รวมถึง EV Charger มาใช้เพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย พร้อมด้วย Clubhouse ส่วนกลางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสิวารมณ์
“โครงการ สิวารมณ์ เนอเจอร์พลัส (บางปู 104) ประกอบไปด้วยโครงการทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ตั้งอยู่บนพื้นที่ 50 ไร่ ในราคาเริ่มต้น 2.38 – 4.86 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์การจำลองบรรยากาศหมู่บ้านริมทะเลสไตล์นอร์เวย์ เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ดูมีสีสันสวยงาม และจัดว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดในจ.สมุทรปราการ และมีความโดดเด่นด้วยดีไซน์และคุณภาพงานก่อสร้าง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่ได้มาตรฐานเดียว SVR ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน”
ปัจจัยสำคัญที่พัฒนาบนพื้นที่บางปู เนื่องจากเป็นแหล่งที่ดินทำเลทองสำหรับที่อยู่อาศัยที่มีศักยภาพสูง และถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดยุทธ์ศาสตร์ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คด้านคมนาคม เหนือกว่าโซนอื่นๆ ทั้งรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว หรือสายสุขุมวิท ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อแหล่งธุรกิจใจกลางเมือง ขณะที่จุดสถานีรถไฟฟ้าดังกล่าว มีอาคารจอดรถขนาดใหญ่ให้บริการ ตอบโจทย์ผู้ที่ใช้รถส่วนตัวร่วมกับรถสาธารณะได้อย่างลงตัว และยังไม่ไกลจากทางด่วนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งใต้) สามารถเดินทางไปฝั่งธนบุรี และเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังทางด่วนบูรพาวิถีกับมอเตอร์เวย์ สาย 7 (กรุงเทพฯ – ชลบุรี) มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก หรือเข้ากรุงเทพฯ ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ ได้อย่างสะดวก
นายรณฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การผนึกกำลังร่วมกันในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนให้บริษัทฯ และยังถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การแข่งขันในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังสอดรับนโยบายของบริษัทฯที่ตั้งเป้ามุ่งสู่ระดับ High Growth