ใครที่ใช้ iPhone อยู่คงจะเจอกับปัญหาเครื่องช้าลงอย่างมาก หลังจากที่ได้อัปเดต iOS 10.2.1 ไป จนมีการตั้งข้อสงสัยว่า Apple จงใจทำให้เครื่องช้าลงเพื่อให้คนอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่หรือเปล่า เพราะปัญหานี้ขึ้นเฉพาะกับไอโฟนรุ่นเก่าเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีประเด็นในอินเตอร์เน็ต ก็เป็นครั้งแรกที่ทางบริษัท Apple เผยว่าพวกเขามีการใส่ฟีเจอร์ให้เครื่องทำงานช้าลงเมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปจริง
แต่ที่ทำนั้น เป็นเพราะพยายามหลีกเลี่ยงไม่เกิดปัญหาเครื่องดับไปเองหรือดับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากให้คุณซื้อ iPhone รุ่นใหม่ตามที่ผู้คนเข้าใจ
โดยทั่วไปแล้ว iPhone จะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่สามารถเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา หลังจากที่คุณชาร์จโทรศัพท์ไปประมาณ 500 ครั้ง แบตเตอรี่ iPhone เหลือประสิทธิภาพเพียง 80% จากของเดิม
ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ คุณอาจจะเริ่มสังเกตเห็นว่าแบตเตอรี่ของคุณทำงานด้อยลงภายในหนึ่งปีแรกหรือนานกว่านั้น
เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมลง ระบบปฏิบัติการจะลดประสิทธิภาพของ CPU และ GPU ของเครื่องโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณไม่สามารถเล่นเกมหรือแอพต่างได้ดีเท่าที่คุณต้องการ ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ iPhone 6 6S SE และ 7 ทำงานช้าลง
ในแถลงการณ์ ทาง Apple กล่าวว่า
“เป้าหมายของเราคือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ซึ่งรวมไปถึงประสิทธิภาพโดยรวมและอายุการใช้งานของอุปกรณ์
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจะเก็บประจุไฟฟ้าได้น้อยลงเมื่ออยู่ในสภาวะที่มีอุณหภูมิต่ำ และนอกจากนี้ประสิทธิภาพการใช้งานจะเสื่อมไปตามเวลา ซึ่งอาจส่งผลให้เครื่องดับไปเอง เพื่อป้องกันชิ้นส่วนของอิเล็กทรอนิกส์ไม่ให้เกิดความเสียหาย
เมื่อปีที่แล้ว เราได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน iPhone 6, iPhone 6s, และ iPhone SE ที่ทำให้การทำงานนั้นเต็มที่เฉพาะเวลาจำเป็นจริงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องดับไปเอง
ตอนนี้เราได้พัฒนาคุณสมบัตินี้กับ iPhone 7 ใน iOS 11.2 และเราก็วางแผนที่จะนำไปสนับสนุนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในอนาคตด้วย”
ทั้งนี้ไม่ว่า iPhone ของคุณจะช้าลงด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ซึ่งจะช่วยให้อุปกรณ์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังราคาถูกกว่าที่จะซื้อเครื่องใหม่ด้วย
หากคุณสงสัยว่าแบตเตอรี่ของคุณเสื่อมหรือมีปัญหา คุณสามารถใช้ Battery Life หรือ Geekbench 4 ในทดสอบมาตรฐานแบตเตอรี่ได้เช่นกัน…
ที่มา: buzzfeed