บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ 85.12 ล้านบาท แม้รายได้จากการขายลดลงตามสภาพตลาดในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่บริษัทสามารถ รักษากำไรขั้นต้นและสภาพคล่องได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมปรับกลยุทธ์รับมือการชะลอตัวของคำสั่งซื้อในประเทศ และเดินหน้าขยายฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มทั้งในและต่างประเทศ
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปี 2568 ว่า ไตรมาสนี้ TRT และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายรวม 1,332.48 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนหลักจากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้ากว่า 89% โดยรายได้ลดลงราว 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเลื่อนการจัดซื้อจากภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ดี บริษัทสามารถ บริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนจากอัตรากำไรขั้นต้นรวมยังอยู่ในระดับใกล้เคียงปีก่อนที่ราว 22%
ในส่วนของรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 125.92 ล้านบาท แม้จะลดลงเล็กน้อย แต่บริษัทเดินหน้าขยายบริการบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าให้ครบวงจร เพื่อสร้างรายได้ประจำ (recurring in come) เสริมความมั่นคงระยะยาว
ที่สำคัญ บริษัทยังสามารถ ลดต้นทุนทางการเงินได้เกือบครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 36.64 ล้านบาท จาก 69.85 ล้านบาทในปีก่อนหน้า หลังบริหารสภาพคล่องได้ดี ชำระคืนหนี้ระยะสั้นเพื่อลดภาระดอกเบี้ย สะท้อนศักยภาพการบริหารทางการเงินที่แข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน บริษัทไม่มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของงานในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) อีกต่อไป หลังจากได้รับชำระหนี้ครบถ้วนจากลูกหนี้โครงการดังกล่าวในไตรมาสนี้ ช่วยหนุนผลประกอบการให้กลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า “แม้สภาวะตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศจะชะลอตัวชั่วคราวจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่โดยรวมตลาดยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้รายได้ของ TRT ฟื้นตัวอย่างแข็งแรงในช่วงต่อไป”
ทั้งนี้ ถิรไทยยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีหม้อแปลงประสิทธิภาพสูง และมุ่งเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการสูงในอุตสาหกรรมพลังงาน เพื่อเสริมศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน