ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้ ล้วนให้ผลสองด้านเสมอ ถ้ารับน้อยเกินไปอาจจะขาดสารบางตัว แต่หากรับมากเกินไป พิษภัยก็อาจจะถามหา ในช่วงฤดูร้อนนี้ผลไม้สุดฮิตคงหนีไม่พ้น ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ สนนราคาก็มีให้เลือกมากมาย แล้วแต่สายพันธุ์ ขนาดเล็กใหญ่ และ ความต้องการของตลาด ลองมาไล่ดูกันหน่อยว่า เจ้าทุเรียนนี้ มีสรรพคุณอะไร ที่ให้ประโยชน์กับร่างกายเราบ้าง
ทุเรียนหมอนทอง มีคุณสมบัติช่วยลดระดับไขมันหรือคอเลสเตอรอลได้ เพราะทุเรียนพันธุ์นี้ มีสารโพลีฟีนอล และ มีเส้นใยที่ช่วยขับไขมันได้ แต่ว่าต้องรับประทานเพียงหนึ่งพูต่อวัน (นพ.กฤษดา ศิรามพุช) ในทุเรียนมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะพันธุ์หมอนทอง เมื่อกินในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะช่วยป้องกันการเกิดโรคได้
แม้ทุเรียนจะมีไขมันมากก็ตาม แต่ก็เป็นไขมันชนิดดี ที่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย หากรับประทานอย่างพอดี เส้นใยของทุเรียนมีส่วนช่วยในการขับถ่ายให้สะดวกยิ่งขึ้น เมล็ดของทุเรียน สามารถนำมาปรุงอาหารเพื่อรับประทานได้ โดยนำมาทำให้สุกด้วยวิธีการคั่ว การทอด หรือ การนึ่ง โดยเนื้อในจะมีลักษณะคล้ายกับเผือกหรือมันเทศแต่เหนียวกว่า
ใบอ่อนหรือหน่อของทุเรียน สามารถนำมาใช้ทำอาหารบางอย่าง คล้ายกับผักใบเขียวได้เช่นกัน ส่วนเปลือกของทุเรียนสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ และยังสามารถนำมาผลิตเป็นกระดาษได้ ซึ่งจะมีเส้นใยเหนียวนุ่มและเหนียวกว่ากระดาษสา
ควรรับประทานทุเรียนอย่างไรดี? ให้ปลอดภัยต่อสุขภาพของเรา
บางท่านเวลารับประทานทุเรียนแล้ว อาจเกิดอาการไม่สบายท้อง มีแก๊สในกระเพาะ ท้องเสีย อาเจียน หรือ มีอาการแพ้ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ที่ต้องจำกัดการรับประทานแป้งและน้ำตาลนั้น ไม่ควรอย่างยิ่ง ที่จะรับประทานทุเรียนในปริมาณที่มาก เพราะปริมาณน้ำตาลนั้น มีค่าสูงมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นมาก ขนาดกล้วยที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตาลมาก แต่ในทุเรียนกลับมีปริมาณมากกว่ามาก ดังนั้นจึงควรระวังการรับประทาน (ถ้างดได้ก็ยิ่งดี) เพราะจะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น นำมาซึ่งผลเสียต่อสุขภาพ
หลายๆคนมีความเชื่อว่า ผู้หญิงในขณะตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานทุเรียน เพราะทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อแม่และเด็ก บางความเชื่อกล่าวหาทุเรียนว่า จะส่งผลมีความดันโลหิตสูง จนส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ แต่อันที่จริงแล้ว ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ชัดเจน เกี่ยวกับความปลอดภัยของหญิงตั้งครรภ์กับการรับประทานทุเรียน แม้แต่แพทย์แผนปัจจุบัน ก็ไม่มีการห้ามคนท้องกินทุเรียนแต่อย่างใด
มีงานวิจัยอยู่หนึ่งฉบับที่น่าสนใจ ที่ชี้ว่าทุเรียนอาจเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ เพราะเมื่อพิจารณาจากส่วนประกอบที่ชื่อว่า สารทริปโตเฟน และ สารประกอบซัลเฟอร์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากจะไม่ส่งผลร้ายต่อร่างกายแล้ว ยังมีคุณสมบัติในด้านการช่วยยับยั้ง การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ทำให้อาจส่งผลดีต่อครรภ์ของมารดา ก็เป็นได้ แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยที่ออกมาเป็นเอกสารรับรอง
อย่างไรก็ดี เนื่องจากเนื้อของทุเรียนมีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูงในปริมาณที่สูง โดยในทุเรียน 1 เม็ด (น้ำหนักประมาณ 40 กรัม) จะให้พลังงานเฉลี่ย 50 ถึง 60 แคลอรี่ เพื่อให้ผลที่ดี ควรรับประทานอย่างหอมปากหอมคอ ในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานทุเรียน เพื่อเป็นยารักษาโรค โดยเด็ดขาด
=========================================================================
<<<< credit photo 01 >> https://truststoreonline.com/wp-content/uploads/2018/04/111.png >>>>
<<<< credit photo 02 >>> https://nutrineat.com/durian-fruit-facts >>>>
www.pobpad.com/ทุเรียนกับความเชื่อ << data credit >> https://medthai.com/ทุเรียน