การทำความเข้าใจเอกภพ ถ้าจะมองให้เห็นภาพ ต้องเปรียบเป็นสถานที่ ที่ถูกบรรจุทุกสิ่งทุกอย่างไว้ มันเป็นความฝันอย่างหนึ่งของมวลมนุษยชาติ ด้วยความรู้ฟิสิกส์ในปัจจุบัน จึงทำให้ทราบว่า เอกภพ มีจุดเริ่มต้นจากปรากฏการณ์บิ๊กแบง ที่เปรียบเสมือนการระเบิดครั้งใหญ่ เมื่อ 13,700 ล้านปีก่อน แต่จะเรียกว่าระเบิดก็ไม่เชิง เพราะมันไม่ใช่การระเบิดของมวลสารที่แผ่วงออกไปในที่ว่าง แต่บิ๊กแบงก็คือ การขยายตัวของที่ว่างที่เคยเป็นอยู่ เลยทำให้มวลสารทั้งหมด.ของที่อยู่ตรงที่ว่างนั้นขยายตัวออกไป.ให้ห่างกันมากขึ้นตามไปด้วย
เอกภพที่เพิ่งอุบัติขึ้น ณ เวลานั้น ตอนแรกๆจะมีอุณหภูมิสูงมาก และ เต็มไปด้วยรังสีพลังงานสูง ซึ่งรังสีที่มีพลังงานสูงเมื่อวิ่งมาปะทะกัน ก็จะเกิดปรากฏการณ์แปลกๆ ที่เรียกว่า การสร้างคู่อนุภาค และ ปฏิอนุภาค ซึ่งนักฟิสิกส์ในปัจจุบัน ได้ทำการทดลองสร้างปรากฏการณ์จำลองนี้ ให้เกิดขึ้นในห้องทดลองมาสักระยะหนึ่ง แล้วที่น่าสนใจคือ เมื่ออนุภาคและปฏิอนุภาควิ่งมาปะทะกัน ก็จะเกิดการสลายตัวกลับเป็นรังสีพลังงานสูงได้
ดังนั้นแล้ว ในห้วงเวลาที่เอกภพเพิ่งได้ถือกำเนิดขึ้นในคราวแรกนั้น จึงมีลักษณะเหมือนกันกับ ซุปข้น รังสีที่เดือดพล่านออกมาจนมีการกลายสภาพโดยธรรมชาติ เมื่อเกิดการปะทะจากอีกรังสีหนึ่ง ก็จะสร้างคู่อนุภาค-ปฏิอนุภาคที่มีมวลมากได้ และ ถ้าหากย้อนกลับเป็นรังสีอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตามสมการ พูดง่ายๆก็คือ รังสีของเอกภพในขณะนั้นจะมีพลังงานสูงมากๆ ซะจนสามารถสร้างอนุภาคมวลมากๆ อย่างโปรตอนและนิวตรอนได้
เมื่อเอกภพขยายตัวออกมาสักระยะ อุณหภูมิเอกภพก็จะลดลง ทำให้รังสีมีพลังงานต่ำลง จนไม่สามารถที่จะสร้างโปรตอนและนิวตรอนได้อีก แต่จะสร้างอนุภาคที่มวลน้อยกว่า อย่างอิเล็กตรอนและโพสิตรอนแทน ซึ่งขณะนั้นได้มีการที่ทำให้ปฏิอนุภาคหดหายไปจากเอกภพ และ คงเหลือเพียงอนุภาค เท่าที่ถูกเราพบเห็นอยู่
ในเวลาถัดมา โปรตอน และ นิวตรอน จะเริ่มเกาะกลุ่มกันกลายเป็นนิวเคลียส แต่ยังไม่สามารถเกาะกันจนมีขนาดใหญ่ได้ เนื่องจากรังสีภายในเอกภพ ยังคงมีพลังงานสูงมาก มากพอที่จะทำลายโปรตอนและนิวตรอนที่เกาะกันให้แตกออกมา หรือว่า อยู่ในภาวะที่ไม่เสถียรได้ ทำให้นิวเคลียสที่มีความหนักที่สุด ได้เกิดขึ้นเป็น นิวเคลียสของลิเทียม ซึ่งภายในนี้จะประกอบไปด้วย โปรตอนสามอนุภาค และนิวตรอนอีกสามหรือสี่อนุภาค
ข้อมูลโดย อาจวรงค์ จันทมาศ ++ ข้อมูลและภาพโดย สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ แฟนเพจ