ไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ทุ่มงบกว่า 450 ล้านบาท ขยาย ‘ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขา บางใหญ่’ ซึ่งเป็นสาขาที่ 75 ของประเทศไทย บนพื้นที่บางใหญ่ แหล่งรวมที่อยู่อาศัย ไลฟสไตล์ คอมมูนิตี้ ของคนกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล เหนือกว่าด้วยสินค้าวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านกว่า 40,000 รายการให้คนรักบ้านได้ช้อปแบบจุใจในที่เดียว พร้อมชู 3 กลยุทธ์ที่จะตอบโจทย์ผู้ใช้บริการในพื้นที่ ได้แก่ “คุ้มค่า ครบครัน และค้าปลีกยั่งยืน”
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า บางใหญ่ถือเป็นทำเลของกรุงเทพฯ – ปริมณฑลที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันได้มีการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ โครงสร้างพื้นฐาน และการเพิ่มมูลค่าการลงทุนในหลากมิติ ทำให้บริเวณนี้รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร และถูกขนานนามให้เป็น ‘ศูนย์กลางความเจริญย่านตะวันตกของกรุงเทพฯ’ ทั้งนี้ ไทวัสดุได้เล็งเห็นถึงศักยภาพดังกล่าวจึงมุ่งเดินหน้าเจาะกำลังซื้อชาวบางใหญ่และคนในบริเวณโดยรอบกว่า 150,000 ครัวเรือนด้วย ‘ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาบางใหญ่’ โดยมี 3 กลยุทธ์ที่จะมอบประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านไว้ในที่เดียวให้คนในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกดังนี้
- ‘คุ้มค่า’– ไทวัสดุ ยังคงเดินหน้ามอบความคุ้มค่าให้กับคนไทยทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะต้องการสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม ตกแต่ง งานเล็กหรืองานใหญ่ ก็สามารถบริหารจัดการเงินในกระเป๋าไว้ได้ ซึ่งยังคงได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยยังการันตีด้วยความแข็งแกร่งของฐานลูกค้าที่มาใช้บริการที่ไทวัสดุทุกสาขาทั่วประเทศเป็นประจำรวมกว่า 1 ล้านรายต่อเดือน ให้ความไว้วางใจเลือกซื้อสินค้าหลากหลายประเภท และกลับมาใช้บริการซ้ำ ซึ่งไม่เพียงแต่คุ้มค่าในด้านการเลือกซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงสิทธิประโยชน์ บริการก่อนและหลังการขาย และให้คำปรึกษาแนะนำที่แม่นยำ ตอกย้ำจุดยืนการเป็นแพลตฟอร์มเพื่อบ้านของคนไทย
- ‘ครบครัน’– ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาบางใหญ่ ถือเป็นห้างค้าปลีกสินค้ากลุ่มฮาร์ดไลน์ที่ครบครันที่สุดในพื้นที่บางใหญ่ โดยได้รวมวัสดุก่อสร้างจากไทวัสดุ สินค้าตกแต่งบ้านจากบีเอ็นบี โฮม ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรอย่างออโต้วัน (AUTO1) และร้านค้าต่าง ๆ ไว้ในที่เดียว เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบาย รวดเร็ว มาที่เดียวก็สามารถจบทุกเรื่องได้
- ‘ค้าปลีกยั่งยืน’– ไทวัสดุยังคงดำเนินธุรกิจผ่านยุทธศาสตร์ CRC Retailigence พร้อมผลักดันกลยุทธ์ CRC ReNEW เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยที่ร้านไทวัสดุ กว่า 75 สาขาทั่วประเทศได้มีการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 30-50% เช่นเดียวกับที่ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาบางใหญ่ ที่มีการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ด้วยระบบแบบ On-grid ขนาด 999 KWp นอกจากนี้ยังสนับสนุนสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าประหยัดพลังงาน ผ่านการนำเข้ามาจัดจำหน่ายในศูนย์การค้าและออกโปรโมชันส่งเสริมการขายให้คนไทยสามารถเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีแผนสนับสนุนความยั่งยืนอื่น ๆ เช่น รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า การนำเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงานในอาคารมาใช้ และยังครอบคลุมมิติการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล เช่น การส่งเสริมการจ้างงานคนในพื้นที่กว่า 300 อัตรา สร้างความเท่าเทียมให้กับพนักงานทุกกลุ่ม เป็นต้น
“ปัจจุบันนนทบุรีรวมถึงพื้นที่บางใหญ่มีการขยายตัวจากอานิสงส์การลงทุนทั้งจากภาครัฐ และเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป้าหมายในภาพรวมคือการขยายเมืองให้เอื้อต่อการอยู่อาศัย การทำธุรกิจ การคมนาคมที่สะดวกและมีจุดเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาบางใหญ่ มีความตั้งใจที่จะเป็นแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ และเป็นช่องทางการค้าที่ทันสมัยรองรับดีมานด์จากหลากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับการขยายของครอบครัวใหม่ และผู้มีกำลังซื้อที่เลือกโซนบางใหญ่และนนทบุรีในการอยู่อาศัย”
สำหรับ ในปี 2566 ณ ปัจจุบันจนถึงเดือนกันยายนนี้ไทวัสดุ ได้เปิดสาขาใหม่แล้วทั้งสิ้น 10 สาขา ได้แก่ 1. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขารังสิต คลอง 4 2. ไทวัสดุ สาขาโคราช หัวทะเล 3. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาภูเก็ต ฉลอง 4. ไทวัสดุ สาขากำแพงเพชร 5. ไทวัสดุ สาขาชัยนาท และ 6. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเมืองเอก 7. ไทวัสดุ สาขาเลย 8. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาสมุทรปราการ 9. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเชียงใหม่ สันทราย 10. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาบางใหญ่ และยังมีแผนเปิดสาขาอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง จนถึงเดือนธันวาคม 2566
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,615 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ 30 มิถุนายน 2566 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 59 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566)
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์โครงการ ได้ที่อีเมล์ pr.aboutliving@gmail.com
สนใจโฆษณา ได้ที่ อีเมล์ aboutliving.asia@gmail.com