นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะ Commissioner General of Section of Thailand Pavilion พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) และคณะ เดินทางไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อทำพิธีเปิดการก่อสร้างอาคารประเทศไทยในงาน เวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ อย่างเป็นทางการ โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานต่าง ๆ ในภาครัฐบาล ที่ประจำอยู่ ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบพื้นที่เพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารแสดงประเทศไทย หรือ Ground breaking โดยคาดว่าใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างตัวอาคาร และตกแต่งนิทรรศการแล้วเสร็จในช่วงเดือนกันยายน พ.ศ. 2563
นางสาวอัจรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงดีอี ในฐานะที่เป็นตัวแทนรัฐบาลไทย ในการเข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการระดับโลกในงาน World Expo 2020 Dubai ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมี สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นผู้ดำเนินการและบริหารการจัดการอาคารแสดงประเทศไทยตลอดระยะเวลา 6 เดือน ภายใต้หัวข้อหลัก “เชื่อมความคิด สร้างอนาคต : CONNECTING MINDS, CREATING THE FUTURE หรือ “เชื่อมความคิด สร้างอนาคต” โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไปและส่งสัญญาณต่อให้ทุกคนร่วมใจกันพัฒนาโลก รวมทั้งพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างภาคองค์กรและประชาชน เพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนส่งเสริมการนำเสนอนวัตกรรม ภายใต้ 3 หัวข้อย่อย ได้แก่ 1. โอกาส (Opportunity) 2. การขับเคลื่อน (Mobility) และ 3. ความยั่งยืน (Sustainability)
ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กล่าวว่า การเข้าพื้นที่ เพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารแสดงประเทศไทยในครั้งนี้ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งการพัฒนาแนวคิด การออกแบบ ตามกฎระเบียบของประเทศเจ้าภาพ และกฎหมายท้องถิ่น ซึ่งมีรายละเอียดและมีมาตรฐานในระดับสากล โดยประเทศไทยถือว่าสามารถดำเนินการได้ตรงตามเป้าหมายที่กำหนด และเป็นเรื่องน่ายินดีที่เราได้รับอนุมัติ เข้าพื้นที่พร้อมก่อสร้างเป็นประเทศที่ 5 จาก 190 ประเทศทั่วโลก “อาคารแสดงประเทศไทยภายในงานเวิลด์ เอ็กซ์โปครั้งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่โซน Mobility ขนาด 3,606 ตรม. หรือ 2.25 ไร่ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยเข้าร่วมในงานเวิลด์เอ็กซ์โป จัดขึ้นภายใต้ แนวคิด “การขับเคลื่อนสู่อนาคต” (Mobility for the future) เพื่อเป็นเวทีประกาศศักยภาพการเป็นผู้นำเทคโนโลยีดิจิทัลของไทย ในเวทีระดับโลก ตั้งเป้าดึงนักลงทุนเข้าสู่ประเทศไทย ผ่านการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศไทยในมิติ Digital for Development ต่อยอดจากประเทศที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกด้วยความอุดมสมบูรณ์ของดินแดนสุวรรณภูมิและวัฒนธรรมอันโดดเด่นแบบสยามเมืองยิ้ม ไปสู่การเป็นศูนย์กลางการพัฒนาด้านดิจิทัลที่สามารถเชื่อมต่อทุกคนไปยังทุกที่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ดร.ณัฐพล ผู้อำนวยการดีป้ายังกล่าวว่า อาคารแสดงประเทศไทยเป็นภาพลักษณ์ที่เชื่อมโยงและขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคต สอดคล้องไปกับแนวทางการพัฒนาประเทศไปสู่การเป็น Thailand 4.0 ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนประเทศไทยในทุกมิติ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสและเชื่อมโยงประเทศสู่เวทีโลก สอดคล้องกับแนวความคิดเรื่อง Mobility ซึ่งให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนอันจะก่อให้เกิดความก้าวหน้าเชื่อมโยงระหว่างผู้คนองค์กร และประเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยตั้งเป้าอาคารแสดงประเทศไทยจะมีผู้เข้าชม 7% จากผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด 25 ล้านคนหรือประมาณ 1,750,000 ล้านคน
สำหรับอาคารแสดงประเทศไทยนั้น ดร.ณัฐพล กล่าวว่า การออกแบบด้านสถาปัตยกรรมจะใช้ “สีทอง” เป็นหลัก เพื่อสื่อถึงแผ่นดินทองที่มีความอุดมสมบูรณ์และเปี่ยมไปด้วยอารยธรรมที่มีมาอย่างยาวนานเป็นองค์ประกอบของอาคาร สำหรับการจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคารแสดงประเทศไทย ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบตัวอาคารที่มาจากการถักทอคล้ายม่านดอกไม้ (ดอกรัก) ผสมกับศาลาหน้าจั่วที่แสดงถึงความอ่อนช้อยของสถาปัตยกรรมของไทยลักษณะคล้ายการไหว้ที่งดงาม และเลือกใช้พวงมาลัยมาเป็นสัญลักษณ์ประจำอาคารเพื่อสื่อถึงความเป็นไทย โดยภายในอาคารจะแบ่งออกเป็น 4 ห้อง ที่จะนำเสนอความเป็นไทยในมิติต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี พร้อมการนำเสนอโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โครงการในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงนำมาปรับใช้เป็นรากฐานการพัฒนาประเทศ ตลอดจนโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10
นอกจากนี้ การออกแบบอาคารแสดงประเทศไทยในทุกขั้นตอน ยังมุ่งเน้นการก่อสร้างทางสถาปัตยกรรม แบบยั่งยืนมีการนำเทคโนโลยีออกแบบมาปรับใช้ในอาคารให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยคำนึงถึงความยั่งยืนของธรรมชาติเป็นหลัก เช่น การจัดวางพื้นที่ในส่วนต่างๆ ของอาคารแสดงประเทศไทย นอกจากนั้น ยังใช้หลักในการออกแบบตามทิศทางแสง จากร่มเงาของธรรมชาติ อันเป็นการช่วยลดถอนความร้อนจากภายนอกที่จะผ่านเข้ามาในตัวอาคารได้เป็นอย่างดี ตลอดช่วงระยะเวลาการจัดงานสำหรับ World Expo เป็นงานแสดงนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์อันดับ 3 ของโลก รองจากกีฬาโอลิมปิกและฟุตบอลโลก ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุก 5 ปี ทั้งนี้ งาน “World Expo 2020 Dubai” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ถึง 10 เมษายน 2564 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์