หล่อฮั้งก้วย มีแหล่งกำเนิดในแถบตอนใต้ของประเทศจีน และ ทางภาคเหนือของไทยเรา จัดอยู่ในหมวดของพืชสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง ผลมีลักษณะทรงกลมๆรีๆ ดูละม้ายไข่เป็ด ผิวเปลือกแข็งแต่มีความเปราะ ผลดิบจะมีสีเขียว และสีจะเขียวเข้มขึ้นไปเรื่อยๆตามระยะเวลา จนสุดท้ายผลจะออกสีน้ำตาลเข้มแกมดำเมื่อสุก
ในทางตำราการแพทย์แผนจีน ก่อนที่จะนำมาปรุง จะต้องนำผลหล่อฮั้งก้วย ไปตากแดดให้มีความแห้ง หรือใช้วิธีย่างไฟอ่อนๆให้แห้ง หลังจากนั้นจะทดสอบด้วยการเคาะ ถ้าหากว่าแห้งดีแล้ว จะมีเสียงกังวานอยู่ด้านใน เมื่อใช้ได้แล้ว จึงนำแปรรูปด้วยการต้มหรือว่านำไปบด และ ยังสามารถนำไปเป็นผสมกับยาตัวอื่นๆได้อีก
หล่อฮั้งก้วยเมื่อนำมาสกัดแล้ว จะใช้เป็นสารทดแทนความหวานได้ โดยสารที่สกัดได้นี้ จะมีความหวานสูงมากถึง 250 – 300 เท่าของน้ำตาลทราย จึงเป็นที่นิยม นำไปเป็นสารเพิ่มความหวานในอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสหวานในวงการอุตสาหกรรมอาหาร โดยไม่ส่งผลเสียต่อการเพิ่มของน้ำตาลในกระแสเลือด พร้อมกันนี้ยังมีสรรพคุณ ช่วยผู้ป่วยที่มีอาการไอ เสียงแหบแห้ง เพราะมีฤทธิ์บรรเทาอาการหลอดลมอักเสบ และ โรคทางเดินหายใจ นอกจากนี้ในกรณีที่ผู้มีอาการป่วยเกี่ยวกับทางเดินอาหาร หล่อฮั้งก้วยยังมีสรรพคุณ ในการบำรุงระบบทางเดินอาหารช่วงล่าง เช่น ลำไส้ใหญ่ไม่มีแรงบีบตัว หรือผู้ป่วยที่อาการทวารหย่อน เป็นต้น
จากเอกสารงานวิจัยของ มหาวิทยาลัยนิฮอนในประเทศญี่ปุ่น ได้พบว่า หล่อฮั้งก้วย มีสารประกอบบางชนิด ในการต่อต้านเนื้องอก และ มหาวิทยาลัยในเมืองฮิโรชิม่า ก็ยังพบอีกว่า สารโมโกรไซด์ (Mogrosides) ที่พบในผลนั้นมีคุณสมบัติพิเศษ ที่สามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต ของเซลล์เนื้องอก ใต้ผิวหนังของผู้ป่วย
ในประเทศไทยมีงานวิจัยจากภาควิชาเภสัชอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำมาผลิตเป็นลูกอม ให้แก่ผู้ป่วยและบุคคลทั่วไป ได้ลองนำไปรับประทาน ภายใต้การวิจัยที่ชื่อว่า น้ำสมุนไพรอัดเม็ด โดยในงานวิจัยฉบับนี้ระบุว่า เมื่อนำมาอัดเม็ด โดยกระบวนการที่ถูกต้องแล้ว ยังคงสามารถรักษาสรรพคุณได้อย่างครบถ้วน
==========================================================================
data credit >>>> https://th.wikipedia.org/wiki/หล่อฮั้งก้วย
photo credit >> http://gallbladderattack.com/monk-fruit
cover photo >> http://www.holidaythai.com/pictures/353
==========================================================================