ความสำเร็จของผู้คนในอดีตกาลจวบจนถึงปัจจุบัน โดยมากแล้วประกอบไปด้วยวิสัยทัศน์ ความขยัน ทรหดอดทน ซื่อสัตย์สุจริต วินัยทางการเงิน และอื่นๆ ซึ่งเรื่องบางเรื่อง หากถูกปลูกฝังในวัยเด็ก จนเกิดเป็นความคุ้นชินไปแล้ว เมื่อถึงคราวที่จะต้องจัดการกับเรื่องต่างๆ ก็จะไม่ต้องปรับตัวอะไรให้มากนัก เฉกเช่นเดียวกับ เณรน้อยวัดเส้าหลินที่ต้องหาบน้ำ ผ่าฟืน กวาดใบไม้ หากมองอย่างฉาบฉวยก็จะเป็นแค่งานธรรมดา ที่ไม่ได้สร้างทักษะอะไร แต่ที่จริงแล้ว นั่นคือการฝึกฝนร่างกายรูปแบบหนึ่ง แถมยังเป็นการชำระจิต ให้ตื่นรู้อยู่เสมอ
…………………………………………………………………………………………………………….
อันดับแรก ฝึกวินัยด้วยการนอน เพราะการพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อร่างกาย เหล่าบรรดานักบริหารผู้ยิ่งใหญ่ มักจะจัดตารางชีวิตเกี่ยวกับการนอนไว้อย่างชัดเจน เพราะคนที่นอนหลับไม่เพียงพอ มักจะทำให้สมรรถนะในการทำงาน มีพลังไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจ และแน่นอนว่า มีผลต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้นการฝึกเด็กๆให้เข้านอนเป็นเวล่ำเวลา.จนเข้าสู่ระบบนาฬิกาชีวิต.จึงเป็นเรื่องสำคัญ
อันดับสอง ฝึกการวางแผนด้วยของเล่น เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นมาอีกหน่อย จะต้องมีการใช้ทักษะในการเล่นที่มากขึ้น ที่ส่งผลต่อการพัฒนาของสมอง ดังนั้นแล้ว จึงมีการเชื่อมโยงกัน แม้ว่าผิวเผินจะเป็นเรื่องของการเล่นของเล่น (ที่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ) เช่นการต่อเลโก้ หรือ ปั้นดินน้ำมัน ให้เป็นรูปร่างต่างๆ นั่นคือการฝึกให้เด็กเห็นปลายทาง (ภาพรวม) และ เริ่มลงมือทำทีละขั้นทีละตอน (วางแผน , ดำเนินการ) เริ่มภาพนึกออกยังครับ
อันดับสาม วางรากฐานด้วยศีลธรรมอันดี วัยเด็กเป็นวัยที่ตื่นตัวต่อการเรียนรู้ การปลูกฝังคุณธรรม จะส่งผลต่อลูกหลานท่านตั้งแต่ยังเยาว์จนถึงเติบใหญ่ ผู้ปกครองบางคนอาจค้านว่า เด็กเล็กๆคงไม่รู้เรื่องอะไร ถ้าทางตรงก็ถือว่าใช่ แต่เราสามารถสอนโดยอ้อมได้ เช่น เรื่องการพูดแต่ความจริง (ศีลข้อมุสา) ความซื่อสัตย์สุจริต ความรับผิดชอบต่อตนเอง ความรักความเมตตา การเสียสละ ..ซึ่งเรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นหลักธรรมทั้งสิ้น
อันดับสี่ เสริมทักษะการคิดวิเคราะห์แยกแยะด้วยการคุย อย่าปล่อยให้การพูดกับเด็กเป็นแค่การสื่อสารทางเดียว แม้แต่การนั่งดูการ์ตูนด้วยกัน มันก็ยังมีเนื้อหาอยู่ ลองหยิบยกประเด็นเหล่านั้นมาพูดคุย เพื่อลอบสังเกตปฏิกิริยาของเขาว่ามีความเข้าใจในการรับสารอย่างไร จะได้ช่วยปรับแก้มุมมองของเขาได้ทัน การรับสารสำคัญเพราะมีผลต่อการส่งสาร ผู้ประสบความสำเร็จจะประเมินการรับสาร เพราะมันมีผลต่อการตัดสินใจ
อันดับห้า การเปิดโลกทัศน์ด้วยการท่องเที่ยว ทุกๆครั้งที่ออกจากบ้าน ความเคยชินรอบๆตัวจะถูกเปลี่ยนไปทั้งหมด ไม่ว่าด้วยสถานที่ ผู้คน การเดินทาง เรื่องแบบนี้ถ้าหากใส่ใจ ก็จะสามารถสอดแทรกบทเรียนดีๆให้เขาได้รู้ถึง การมีอยู่ของความแตกต่าง และเมื่อรับรู้แล้ว ก็ต้องมีการปรับตัวเมื่อต้องอยู่กับมัน แต่ก็อย่าไปตึงเครียดไปจนเป็นการกดดัน การสอนลักษณะนี้ในทางที่นุ่มนวลจะทำให้ครอบครัวมีความแน่นแฟ้นขึ้นด้วย
…………………………………………………………………………………………………………….
นอกจากนี้แล้วรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ควรใส่ใจก็ยังมีอีกมาก ซึ่งผู้เขียนเองก็ไม่สามารถจะเขียนออกมาได้หมด เพราะประสบการณ์ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไปตามปัจจัยที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคุณมีความห่วงใยใส่ใจบุตรหลานของคุณเองด้วยความจริงใจแล้วละก็ ผมมั่นใจครับว่า ถึงเขาจะไม่ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เหนือใครๆ.ก็ไม่ได้เป็นความผิดอะไรของเขา ขอให้เขาเป็นคนดีของสังคมก็ถือว่าน่าภูมิใจแล้วครับ
…………………………………………………………………………………………………………….
sources >>>>> https://www.facebook.com/theaheadasia/posts/2407319406165443
image credit >>> https://i.pinimg.com/originals/17/4e/0d/174e0dcc194c0210fc3845e831e0fccc.jpg