ถูกใจคนกรุงเทพมหานคร และนักท่องเที่ยวมากทีเดียว กับ 2 เส้นทางเดินรถที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดให้บริการใหม่ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเพียง 5 วันที่เปิดให้บริการ ก็มีผู้โดยสารใช้บริการถึง 4,506 คน รวมรายได้ 225,020 บาท
2 เส้นทางที่ว่าคือ เส้นทางรถเมล์สายใหม่เชื่อมต่อสนามบิน (Airport Bus) สาย A3 เส้นทางท่าอากาศยานดอนเมือง-สวนลุมพินี ช่วง 5 วันแรกที่เปิดให้บริการ (1-5 พฤษภาคม 60) มีผู้โดยสารใช้บริการรวม 2,350 คน รายได้ 117,220 บาท หรือเฉลี่ยวันละ 23,444 บาท และ สาย A4 เส้นทางท่าอากาศยานดอนเมือง-สนามหลวง มีผู้โดยสารใช้บริการรวม 2,156 คน รายได้ 107,800 บาทหรือเฉลี่ยวันละ 21,560 บาท โดยให้บริการรวมทั้งสิ้น 628 เที่ยว รวมรถเมล์โดยสาร 13 คัน แบ่งเป็นสาย A3 เฉลี่ยวันละ 60-66 เที่ยว รวม 318 เที่ยว ส่วนสาย A4 เฉลี่ยวันละ 60-66 เที่ยว รวม 310 เที่ยว
และเมื่อรวมกับผลตอบรับในการใช้บริการรถเมล์เชื่อมต่อสนามบิน ที่เปิดให้บริการก่อนหน้านี้ 2 เส้นทาง คือ สาย A1 ท่าอากาศยานดอนเมือง-จตุจักร และ สาย A2 ท่าอากาศยานดอนเมือง–อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เฉพาะช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมามีผู้โดยสารรวม 438,691 คน มีรายได้รวม 6,605,064 บาท แบ่งเป็น สาย A1 มีผู้โดยสารทั้งสิ้น 291,412 คน รายได้ 4,391,786 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 146,392 บาท ขณะที่สาย A2 มีผู้โดยสารทั้งสิ้น 147,279 คน รายได้ 2,213,278 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 73,775 คน
ทำให้ ขสมก.คาดการณ์ว่าเส้นทางรถเมล์เชื่อมต่อสนามบินดอนเมือง A1 A2 A3 และ A4 ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากการประชาสัมพันธ์ทั้งภายในสนามบิน และการโฆษณาหลายรูปแบบตั้งแต่อยู่บนเครื่องบิน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวได้ทราบและกระจายข้อมูลต่อสำหรับผู้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวใน กทม. จะมียอดผู้ใช้มากขึ้นต่อเนื่องและสามารถทำรายได้หลักให้กับองค์กรได้แน่นอน
กลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ที่นิยมเดินทางด้วยระบบขนส่งรถเมล์สาธารณะ เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ รวมถึงคนทำงานหรือที่อาศัยอยู่ย่านดอนเมืองและต้องการเดินทางเข้ามาในเมืองหรือมาต่อรถไฟฟ้า ซึ่ง นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บอกว่า เชื่อว่ารถเมล์สายใหม่ทั้ง 2 สายนี้ในอนาคตจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นลูกค้าส่วนใหญ่ เนื่องจากทิศทางการเติบโตของตลาดท่องเที่ยว ประกอบกับผู้โดยสารที่เข้ามายังสนามบินดอนเมืองส่วนมากเป็นผู้โดยสารที่เดินทางระยะสั้นและเป็นผู้โดยสารสายการบินต้นทุนต่ำที่ชื่นชอบการเดินทางด้วยระบบสาธารณะมากกว่ารถแท็กซี่
นอกจากนั้น ขสมก. ยังมีแผนการพัฒนาเส้นทางรถเมล์เชื่อมต่อสนามบินในอนาคตตามนโยบาย One Transport ของกระทรวงคมนาคม โดยจะพิจารณาเส้นทางให้บริการใหม่จากสนามบินดอนเมืองเพิ่มขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร รองรับการเดินทางเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ และเพื่อเพิ่มรายได้ให้องค์กรตามแผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถ ขสมก. โดยเบื้องต้นเส้นทางที่น่าจะมีความเป็นไปได้คือเส้นทางเชื่อมต่อสนามบินดอนเมืองกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองหลวง รวมถึงเส้นทางเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสถานีสำคัญและสถานีขนส่งในเมือง
อย่างไรก็ตาม แม้ทำให้การเดินทางจากดอนเมืองสะดวก ไม่ต้องกังวลกับเวลาที่ต้องรอรถนานหรือต้องเข้าคิวยาวเพื่อใช้บริการรถแท็กซี่ และค่าโดยสารก็ไม่แพง แต่ยังมีข้อกังวล คือเรื่องการจัดการเส้นทางขาออกกลับไปสู่สนามบิน ที่ยังต้องผ่านจุดที่การจราจรติดขัด ทำให้คาดเดาเวลาได้ยาก ถ้าจะเดินทางคงต้องเผื่อเวลาเยอะๆ เช่นเดิม หรือไม่ก็ต้องใช้ BTS/MRT ไปสถานีหมอชิต แล้วต่อสาย A1 แทนเพื่อความชัวร์ และที่สำคัญคือการแบกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ ขึ้นรถปรับอากาศยูโรทูยังไม่สะดวกเท่าไรนัก เวลาที่รถเมล์เบรคหัวทิ่มหัวตำกระเป๋าจะเลื่อนไหลจนเจ้าของต้องวิ่งไล่จับกระเป๋าอยู่ทุกครั้ง เป็นจุดที่ผู้โดยสารฝากไว้ให้เป็นข้อปรับปรุงสำหรับเส้นทางใหม่ๆ ที่ ขสมก. จะเปิดให้บริการเพิ่มในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก: BLT