ไปรษณีย์ไทย ขอปรับขึ้นค่าบริการ หลังขาดทุนหนัก-ไม่ได้ขึ้นราคามา 13 ปี เชื่อประชาชนไม่ได้รับผลกระทบนัก ส่วนภาคธุรกิจอาจมีส่วนลดตามสัดส่วนการส่งสินค้า
วันนี้ (23 สิงหาคม 2559) รายการคุยข่าวเช้า 8 ของช่อง 8 มีรายงานว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เตรียมขอปรับขึ้นราคาค่าบริการไปรษณีย์หลังไม่ได้ปรับขึ้นมาร่วม 13 ปี เนื่องจากประสบภาวะขาดทุนจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไปรษณีย์ไทยยังได้ให้บริการเชิงสังคมตอบสนองนโยบายรัฐมาโดยตลอด มีค่าใช้จ่ายในการบริการสังคมตกปีละกว่า 1,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16,900 ล้านบาทในการบริการสังคมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ดังนั้นจึงมีตัวเลือก 2 ทางคือการได้รับเงินช่วยเหลือสนับสนุนจากรัฐบาล มิเช่นนั้นก็ต้องปรับขึ้นค่าบริการ โดยเชื่อว่าประชาชนน่าจะไม่ได้รับผลกระทบนัก เพราะปัจจุบันมีการสื่อสารผ่านช่องทางจดหมายน้อยลง ส่วนภาคธุรกิจก็จะมีส่วนลดให้ตามสัดส่วนการขนส่งสินค้า
โดยอัตราค่าบริการใหม่ของไปรษณีย์ไทย มีดังนี้
จดหมาย
น้ำหนักไม่เกิน 20 กรัม จาก 3 บาท ขึ้นเป็น 8 บาท
น้ำหนักเกิน 20 กรัม แต่ไม่เกิน 100 กรัม จาก 5 บาท ขึ้นเป็น 10 บาท
น้ำหนักเกิน 100 กรัม แต่ไม่เกิน 250 กรัม จาก 9 บาท ขึ้นเป็น 15 บาท
น้ำหนักเกิน 250 กรัม แต่ไม่เกิน 500 กรัม จาก 15 บาท ขึ้นเป็น 20 บาท
น้ำหนักเกิน 500 กรัม แต่ไม่เกิน 1,000 กรัม จาก 25 บาท ขึ้นเป็น 40 บาท
น้ำหนักเกิน 1,000 กรัม แต่ไม่เกิน 2,000 กรัม จาก 45 บาท ขึ้นเป็น 60 บาท
ไปรษณียบัตร
ราคา 2 บาท ขึ้นเป็น 5 บาท
พัสดุไปรษณีย์
น้ำหนักไม่เกิน 1,000 กรัม จาก 20 บาท ขึ้นเป็น 30 บาท
ส่วนที่เกิน 1,000 กรัม จากที่คิด 1,000 กรัมละ 15 บาท เป็นคิด 1,000 กรัมละ 20 บาท
ธนานัติในประเทศ
1,000 บาท จาก 10 บาทขึ้นเป็น 15 บาท
ส่วนที่เกิน 1,000 บาท จากคิด 1,000 บาทละ 2 บาท เป็น 1,000 บาทละ 5 บาท
ของตีพิมพ์
น้ำหนักไม่เกิน 50 กรัม จาก 3 บาท ขึ้นเป็น 8 บาท
อย่างไรก็ตามค่าบริการดังกล่าวยังเป็นเพียงอัตราที่ทางไปรษณีย์ไทยเสนอมา เท่านั้น ซึ่ง ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่หากมีการเสนอขอเข้ามาจริงก็จะต้องพิจารณากันอีกที และต้องให้ผ่านมติของคณะรัฐมนตรีด้วย
