กมธ.ไอซีที วุฒิสภา เชิญภาครัฐ และเอกชนกว่า 30 หน่วยงาน ร่วมพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์จาก Data Center และ AI ตั้งเป้าผลักดันสู่วาระสำคัญระดับชาติ เพื่อรองรับการส่งเสริมการลงทุนไทยและต่างชาติ พร้อมเร่งออกนโยบายและกฎหมายด้านการพัฒนาและใช้ AI อย่างรับผิดชอบ คำนึงถึงจริยธรรม ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือ 3 กระทรวงหลักในการพัฒนาทักษะแรงงานด้าน AI เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
นายสุวิทย์ ขาวดี สมาชิกวุฒิสภาจากจังหวัดสตูล ในฐานะประธาน คณะทำงานพิจารณาศึกษาแนวทางการใช้ประโยชน์จากดาต้าเซ็นเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ เปิดเผยว่า คณะทำงานพิจารณาศึกษาแนวทางการใช้ประโยชน์จากดาต้าเซ็นเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ ได้จัดงานสัมมนา “แนวทางการใช้ประโยชน์จากดาต้าเซ็นเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ในการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ที่ห้องประชุมสัมมนา B1-B5 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา” ในประเด็นเรื่องดาต้าเซ็นเตอร์และ AI เป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญและมีผลโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ดังนั้นคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภาได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการใช้ประโยชน์จากดาต้าเซ็นเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางดิจิทัลอาเซียน และ Financial hub โดยมีนโยบายและยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการสนับสนุนการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
“หลังจากที่คณะทำงานฯ ได้มีการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนแล้วเห็นว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยจำเป็นต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานด้านดาต้าเซ็นเตอร์และ AI ที่แข็งแกร่ง คณะทำงานฯ จึงให้ความสำคัญกับการกำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนเพื่อดึงดูดการลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการวางนโยบายส่งเสริมการพัฒนา AI ให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมในภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ และภาครัฐ ทั้งนี้ AI และดาต้าเซ็นเตอร์เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเศรษฐ กิจดิจิทัล หากประเทศไทยมีนโยบายที่ชัดเจนและเอื้อต่อการลงทุน จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระดับสากล” นายสุวิทย์ กล่าว
ว่าที่ ร.ต.สรายุทธ์ บุญเลิศกุล ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา ในฐานะเลขานุการคณะทำงาน กล่าวเสริมว่า คณะทำงานฯ ได้เชิญหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนกว่า 30 หน่วยงาน มาร่วมกันพิจารณาแนวทางในการใช้ประโยชน์จาก Data Center และ AI ซึ่งคณะทำงานฯ ได้วางแนวทางสำคัญในการผลักดัน Data Center และ AI เป็นวาระสำคัญระดับชาติ เพื่อรองรับการส่งเสริมการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ และเร่งการออกนโยบายด้านการพัฒนาและใช้ AI อย่างรับผิดชอบ คำนึงถึงจริยธรรม ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนบูรณาการความร่วมมือ 3 กระทรวงในการพัฒนาทักษะแรงงานด้าน AI เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ คณะทำงานฯ จะเร่งสรุปข้อเสนอและนำเสนอต่อ กรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและ การโทรคมนาคม วุฒิสภาภายในเดือนเมษายนนี้ โดยคณะทำงานมีข้อนำเสนอว่า การที่รัฐบาลผลักดันการลงทุน Data Center และเปิดรับการใช้งาน AI ใน ในขณะที่ยังขาดความพร้อมหลายด้าน หน่วยงานภาครัฐยังอยู่ในภาวะต่างคนต่างทำ ขาดนโยบายที่ชัดเจน ไม่มีกฎหมาย ไม่มีเครื่องมือควบคุม บางอย่างหน่วยงานภาครัฐลงทุนด้วยงบประมาณแผ่นดินที่ได้จากภาษีอากร แต่ปิดทางไม่ให้ภาคเอกชนใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ลงทุนโดยเฉพาะระบบคลาวด์จัดเก็บข้อมูลภาครัฐ”
ปัจจุบันประเทศไทย มีคณะกรรมการนโยบายปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติซึ่งมีนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นประธาน แต่ก็ยังขาดกฎหมายกลางที่จะปลดล็อคการนำ AI มาส่งเสริมการใช้งานทั้งในหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชน และยังขาดมาตรการในการคุ้มครองประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์ ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทย ยังไม่มีการประกาศกำหนดมาตรฐานทางเทคนิคทางด้าน Data Center และ AI
ชมคลิปบรรยากาศงานสัมมนา“แนวทางการใช้ประโยชน์จากดาต้าเซ็นเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ในการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย” ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Jb34iAsPwUw และชมคลิปความคิดเห็นของนายสุวิทย์ ขาวดี สมาชิกวุฒิสภาจากจังหวัดสตูล ในฐานะประธาน คณะทำงานพิจารณาศึกษาแนวทางการใช้ประโยชน์จากดาต้าเซ็นเตอร์และปัญรญาปะดิษฐ์
ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=ZZVd9qW0ToY
หมายเหตุ : สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับข่าวเพิ่มเติมได้ที่ ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์กิจกรรม AboutLiving.Asia.com โทร 086-308-8801
