บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด หรือ AMARIN เจ้าของสื่อนิตยสารและสิ่งพิมพ์ในเครืออมรินทร์ และช่อง Amarin TV ประกาศแจ้งขอมติผู้ถือหุ้นเดิม เพิ่มทุนและขายหุ้นส่วนนี้ให้กับตระกูลสิริวัฒนภักดี ในราคา 850 ล้านบาท
การเพิ่มทุนครั้งนี้ อมรินทร์จะเพิ่มทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มจำนวนหุ้น 200 ล้านหุ้น มูลค่าราคาหุ้นละ 1 บาท แล้วขายให้กับ บริษัท วัฒนภักดี จำกัด ในราคาหุ้นละ 4.25 บาท (รวมมูลค่า 850 ล้านบาท) โดยบริษัท วัฒนภักดี มีนายฐาปน สิริวัฒนภักดี และนายปณต สิริวัฒนภักดี (บุตรชายสองคนของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี) เป็นกรรมการ
หลังการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ บริษัท วัฒนภักดี จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของอมรินทร์ ด้วยสัดส่วนหุ้น 47.62% ส่วนครอบครัวอุทกะพันธุ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มอมรินทร์ จะมีสัดส่วนหุ้นลดลงเหลือ 30.83% โดยบริษัทจะเรียกประชุมวิสามัญขอความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นเดิมในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560
อมรินทร์ ระบุว่าบริษัทขาดทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 ขาดทุนถึง 468.93 ล้านบาท จึงส่งผลต่อสภาพคล่องและกระแสเงินสด เพื่อใช้จ่ายค่าใบอนุญาตดิจิตอลทีวี ค่าเช่าโครงข่ายทีวี และชำระเงินกู้คืนไปยังสถาบันการเงิน บริษัทจึงต้องหาเงินทุนเพิ่ม
ส่วนเหตุผลที่เลือกกลุ่มสิริวัฒนภักดี เป็นเพราะมีความพร้อมด้านเงินทุน และมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย
บริษัท วัฒนภักดี จำกัด มีทุนจดทะเบียน 9 ล้านบาทถ้วน โดยมีนายฐาปน สิริวัฒนภักดี และนายปณต สิริวัฒนภักดี ถือหุ้นใหญ่เกือบทั้งหมด ส่วนผู้ถือหุ้นรายอื่นคือ นางปภัชญา สิริวัฒนภักดี และ ม.ล. ตรีนุช สิริวัฒนภักดี
การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ต่ำกว่าในราคาตลาดของหุ้นอมรินทร์ 43.11% (ราคาเฉลี่ยที่คำนวณ 7.47 บาท ขายในราคา 4.25 บาท)
ที่มา – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย