ชื่อเสียงของม้ามองโกล ถือเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้า สายพันธุ์เก่าแก่นี้กระพือลือลั่นไปทุกสารทิศ ยิ่งกองทัพม้าของเจงกิสข่าน ยามบุกตะลุยไปทางไหน ข้าศึกก็อดหวาดหวั่นไม่ได้ ความแข่งแกร่งและความทรหดในการบุกป่าผ่าดง ถูกยอมรับจากทุกอาณาจักรทั่วโลก ผมกำลังคิดอยู่ว่า.. แม้แต่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์แห่งมาซิโดเนีย ผู้ครอบครอง ม้าบุเซฟาลัส ก็คงอดที่จะชื่นชมไม่ได้เป็นแน่
ความโด่งดังยิ่งใหญ่ของม้ามองโกลเลีย ได้กลายเป็นบรรทัดฐานของม้าชั้นดีระดับโลก จนเกิดมีการพัฒนาไปเป็น ต้นตระกูลของม้าหลายๆพันธุ์ของโลก มันได้แพร่พันธุ์ไปถึงตะวันออกกลาง ที่มีพื้นที่ต่อเนื่องกับเอเชียตะวันตก ทั้งอิรัก อิหร่าน อิรัก และ เคอร์ดิสถานในเอเซียกลาง เส้นทางแพร่พันธุ์ของม้ามองโกล ยังได้มุ่งตรงจากตะว้นออกกลาง จนวนกลับมาที่เอเซียใต้ โดยผ่านทาง อินเดีย ทิเบต ภูฏาน จีน รัฐฉาน จนเกิดมีสายพันธุ์ใหม่ๆ เช่น สปิติ ซาสกาชิ มานิปูริ และมานิปูรินี่เอง ที่ชาวเมืองอัสสัมได้นำมาเล่นกีฬาโปโล ซึ่งถูกใจชาวอังกฤษ.จนได้มีการนำไปขยายพันธ์ต่อ
และในที่สุดม้าระดับโลกเลือดผสม ก็ได้ผ่านเข้ามาสู่พม่าและไทยโดยดุษฎี ท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ว่า ม้าไทย หรือ ม้าแกลบ มันมีสายเลือดของม้ามองโกลอยู่ในตัว แต่ด้วยความที่เกิดผสมพันธุ์มาหลายทอด จึงไม่อาจจะระบุได้ชัดเจน ว่าเป็นญาติกันทางใดบ้าง อีกอันนึงซึ่งถือว่าเด็ด ม้าพันธุ์อาระเบียน ซึ่งเป็นม้าชั้นยอดของโลกเช่นกัน เมื่อถูกนำมาผสมกับม้ามองโกล จึงได้เกิดเลือดใหม่ ที่ถูกเรียกว่า คาเธียวาร์ และ มาวาริ และแตกย่อยไปอีกขั้นหนึ่ง จนเกิดสายพันธุ์แซนเดิลวู้ด จาวา ปาดาง ถึงแม้ อาจจะไม่ได้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็นับว่า มีสิทธิ์ในกองมรดกโดยสายเลือด
data credit >>>>>>> https://gritsarakun.livejournal.com/8444.html
photos credit >>>>>>>> www.facebook.com/XinhuaNewsAgency.th