มาตรการเก็บภาษีเพิ่ม.. ส่งผลกระทบไปยังบริษัทขนาดเล็ก มากกว่าบริษัทขนาดใหญ่
เดอะ วอลล์สตรีทเจอนัล ได้เปิดเผยข้อมูลจากบทความที่เขาตีพิมพ์ เกี่ยวกับผลกระทบและแรงสะท้อนของมาตรการเก็บภาษี สินค้านำเข้าจากประเทศจีน โดยรัฐบาลของสหรัฐฯ และ ได้มีการพบว่าบริษัทขนาดเล็กนั้น ได้รับผลกระทบที่รุนแรงกว่าบริษัทขนาดใหญ่ เนื่องจากกลุ่มบริษัทดังกล่าว ไม่ได้มีความสามารถในการหลีกเลี่ยงการปรับขึ้นของต้นทุนสินค้า แรงสะท้อนนี้จึงถูกส่งต่อไปยังกลุ่มค้าย่อยและลุกลามจนถึงผู้บริโภค
นอกจากนี้บริษัทขนาดเล็ก(ส่วนใหญ่) ไม่ได้มีเงินทุนสำรองมากพอ ที่จะดำเนินการโยกย้ายฐานการผลิตไปยังนอกประเทศ รวมถึงมีเงินหมุนเวียนไม่เพียงพอในช่วงเวลาที่จำเป็น จึงทำให้ปัจจัยต่างๆ เกิดการเสียดุลย์
ดังนั้น บริษัทขนาดเล็กจึงจำเป็นต้องทบทวนกลยุทธ์ ในการดำเนินธุรกิจอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ฐานการผลิต ตัวแทนจัดจำหน่าย แผนการขนส่ง รวมไปถึง.การตั้งราคาสินค้าเพื่อรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้า
ผลสำรวจบริษัทขนาดเล็กจำนวนกว่า 750 บริษัท ในเดือนกรกฎาคม ของ Vistage Worldwide Inc. ที่ได้ระบุว่า มุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของธุรกิจ ปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุด นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ก็ไม่ได้กังวลมากนัก เนื่องจาก.. อุปสงค์โดยรวมยังคงอยู่ในระดับที่สูง
เอฟเฟ็กท์คราวนี้ มีผลกระทบกับประไทยเราอย่างแน่นอน การศึกษาข้อมูลให้ครบรอบด้าน จึงมีส่วนสำคัญ ในการอยู่รอด หรืออาจจะมีจะช่องทางในการส่งเสริมธุรกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ก็เป็นได้ ต้องมองดูให้ดีครับ
===========================================================================
=============== resource : Bank of Thailand Scholarship Students ===============
=========== all photo : www.wsj.com/articles/we-are-at-the-limit-trumps-tariffs ==========
===========================================================================