เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์นี้ ยังคงอยู่ภายใต้กลิ่นตลบอบอวล ของเทศกาลแห่งความรัก (ของฝรั่ง) ไม่ว่าจะเป็นความรักรูปแบบใดก็ตาม ถ้าหากมีจุดมุ่งหมายที่ดี โดยไม่ได้เบียดเบียน และ ส่งผลกระทบในทางลบ กับใคร หรือ สิ่งใดแล้ว ย่อมเป็นเรื่องสวยงาม กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราก็เช่นกัน ทางอเบาท์ลิฟวิ่ง จึงขอนำ คู่มือบอกเลิกหลอดพลาสติก มาร่วมด้วยช่วยกันบอกรักโลก แบบง่ายๆมาแนบไว้ เพื่อโปรดพิจารณากันครับ
1. เริ่มต้นจากที่บ้านของเราก่อนเลย ผมคิดเอาเองว่า มีผู้คนจำนวนน้อยคนนะ ที่จะใช้หลอดพลาสติก ในการดื่มอะไรก็แล้วแต่ จากภาชนะที่อยู่ในบ้าน แต่ถ้าหากว่าคุณ ยังมีพฤติกรรมติดการใช้หลอดอยู่ ก็ทดลองมาฝึกฝนตัวเอง ด้วยการดื่มจากแก้ว ให้เป็นนิสัยกันเถอะครับ ทั้งนี้ก็เพื่อลด ละ เลิก การใช้หลอดพลาสติกโดยที่ไม่จำเป็น
2. ต้องหัดพูดคำว่า “ไม่เอาหลอดครับ/ค่ะ” ให้ติดปากเข้าไว้ สำหรับธุรกิจผู้ให้บริการด้านเครื่องดื่ม รวมไปถึงร้านอาหารแล้ว มักจะให้ทางเลือกกับลูกค้าเสมอ โดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากบอกกล่าว แต่ถ้าหากคุณ อยากปฏิเสธการใช้หลอดจริงๆ คุณจำเป็นต้องบอกกับผู้ให้บริการ เพื่อที่พนักงานนั้นๆจะได้ไม่ต้องจัดหลอด โดยไม่ถูกตำหนิ
3. หลอดรียูส คือหลอดพกพาส่วนตัว ที่สามารถทำความสะอาด แล้วนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ในปัจจุบันนี้ มีทั้งแบบ พลาสติกอย่างดี ซิลิโคน จนไปถึงแสตนเลส ที่ผลิตออกมาไว้รองรับนักดูด เพื่อเอาไว้ใช้งาน ในยามที่ต้องการซู๊ดเครื่องดื่มที่คุณโปรดปราน โดยไม่สิ้นเปลืองทรัพยากร และยังสามารถพกพาได้ไปไหนต่อไหนได้ตามแต่คุณ
4. ช่วยเผยแพร่ข่าวสารข้อมูล ด้วยการแชร์ โพสต์ หรือ บอกกันปากต่อปาก ทั้งในโลกออนไลน์/ออฟไลน์ ว่าเหล่าบรรดาหลอดพลาสติก ที่ใช้งานกันอยู่นั้น ถูกผลิตมาเพื่อใช้เพียงครั้งเดียว และต้องถูกทิ้งในปริมาณที่มากแค่ไหนในแต่ละวัน แล้วไหนจะต้องมีปัญหาในการจัดเก็บเพื่อนำไปทิ้งทำลาย รวมถึง ระยะเวลาในการย่อยสลาย
ลองมาคิดดูกันเล่นๆ ถ้าหากคนไทยทั้งประเทศ ร่วมแรงร่วมใจกัน เลิกใช้หลอดพลาสติก ภายในหนึ่งวัน เราจะมีศักยภาพในการช่วยลดขยะพลาสติกไปได้ในจำนวนมหาศาลแค่ไหน มีข้อมูลว่า ประเทศไทยเรามีขยะพลาสติกมากถึง100ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งน่าตกใจมาก ดังนั้นการที่จะช่วยกันรณรงค์ เลิกใช้หลอดพลาสติก จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ เพื่อสิ่งแวดล้อมของเรา เพื่อประเทศชาติเรา และ เพื่อลูกหลานของเรา สู้ๆนะครับ
สุดท้ายผมได้แต่หวังว่า แคมเปญนี้ จะได้รับความร่วมมือจากทุกๆฝ่าย เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของเรานี้ มันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน การเริ่มต้นด้วยจิตสำนึกที่ดี ด้วยจุดประสงค์อันดี มันมีคุณค่า และน่าเลื่อมใสเสมอ หากท่านใดที่ยังไม่ได้เริ่ม ก็ขอให้เริ่มซะตั้งแต่ตอนนี้ มันก็ยังไม่สายเกินไปครับ
data by https://www.facebook.com/Re4Reef/ and photo by https://www.thesun.co.uk/