ย้อนระลึกไปถึง ช่วงเวลาที่ผ่านมรสุมต่างๆ ของที่ราบใกล้กับชายฝั่งสก๊อตแลนด์ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ คุณ ลาชแลน และ คุณ แอนนี่ สจ๊วต (ผู้ก่อตั้งบริษัทสถาปนิกเมื่อสิบปีก่อน ซึ่งทั้งคู่ต่างก็มีความเชี่ยวชาญ เกี่ยวกับงานด้านออกแบบ พวกเครื่องปั้นดินเผา และ ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์) รู้สึกถอดใจ ที่จะละทิ้งสิ่งปลูกสร้าง ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน เช่น ปราสาทหลังที่ว่านี้
ทั้งสองคนต่างเคยมีความฝัน ตั้งแต่สมัยเรียนในวิทยาลัย ว่าอยากจะมีโอกาสใช้ชีวิตในปราสาทดูบ้าง ระยะเวลากว่าสี่ปีที่ใช้เวลาไปกับการปรับปรุง ทั้งคู่ได้พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ บริเวณใกล้เคียงกับซากปรักหักพังของปราสาท ที่พวกเขาคิดเอาไว้ว่า บางทีอาจจะต้องลองขออนุญาตดู เพื่อที่จะสร้างหอคอยสักหลัง
ในมุมนึงของปราสาท ที่เพดานถูกเปิดโล่ง ภายหลังการซ่อมแซม ถูกจัดวางให้เป็นห้องครัว ต่อมาไม่นานก็ได้มีผู้เยี่ยมเยือน ผ่านเข้ามาพบเห็นการซ่อมแซมใหญ่ในครั้งนี้ เขาได้เอ่ยว่า ตลอดเวลา100กว่าปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่ามีใครอาศัยในที่แห่งนี้ และเขาก็คิดว่า ไม่น่ามีใครที่จะสามารถพักอยู่ในที่นี้ได้
สี่ปีถัดมา หลังจากความพยายามอย่างหนัก ห้องโถงซึ่งเป็นหัวใจหลักของปราสาทแห่งนี้ ก็ได้เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย รวมไปถึงห้องต่างๆ ในบางเวลาช่วง ที่มีแสงสาดมาจากหน้าต่างเล็กๆของปราสาท ส่องลงมาตกที่พื้น ซึ่งแอนนี่ได้พูดถึงมันว่า.. “มันช่างดูเหมือนเกล็ดหิมะ ที่กำลังสะท้อนแสงอยู่ตรงกลางพื้นห้อง”
<<<<<< ALL PHOTOS CREDIT : http://www.houseandgarden.co.uk/ >>>>>>