เทคนิกบำบัดความเครียดทางจิตด้วยการฝึกสมาธิ

แรงกดดันในการดำเนินชีวิตเกิดได้ทุกที่ทุกเวลา การเยียวยาแต่เนิ่นๆจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนไม่ค่อยจะแนะนำ ให้ทำการบำบัดด้วยเคมีสักเท่าไหร่ ก็เพราะนอกจากจะสิ้นเปลืองแล้ว ยังส่งผลข้างเคียงติดตามมา ความวิตกกังวลจากการใช้ชีวิตนี้ เมื่อสะสมไว้มันจะกลายเป็นความเครียด ซึ่งความเครียดก็เป็นสาเหตุของอาการและโรคภัยต่างๆ จากผลสำรวจพบว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า ซึ่งเกิดจากความวิตกกังวลหรือความเครียด อาการลักษณะนี้ ถือว่าเป็นการป่วยทางจิตใจ.ที่ต้องเร่งรักษาด่วนๆ

อันที่จริงแล้ว การผ่อนคลายมีหลากหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย เข้าฟิตเนส เล่นโยคะ เข้าสปา ดูภาพยนตร์ ฟังดนตรี หรือว่า ปฏิบัติธรรม แต่ด้วยความที่เป็นปุถุชน การเข้าพึ่งพาธรรมะอาจจะเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับบางท่าน แต่เพื่อการเยียวยาตนเองในการจัดลำดับความคิด ด้วยการปลดปล่อยความซับซ้อนในใจ ความต้องการทางจิต เพื่อคืนสมดุลย์สู่ชีวิต วิธีการที่ดีที่สุดและประหยัดที่สุดก็คือ.. การฝึกสมาธิ

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นอาจจะต้องวางพื้นฐานมากหน่อย จนก่อให้เกิดความเชยชิน ช่วงเตรียมตัวเริ่มต้นก็ไม่มีอะไรมาก ควรทำตัวสบายๆ ขจัดอุปสรรคทางกายออกไปก่อน เช่น เข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้หิวข้าว ไม่ได้ติดธุระ หรือ ทำหน้าที่รับผิดชอบเสร็จสิ้น จากนั้นจึงหามุมสงบๆ และที่นั่งสบายๆ ทั้งนี้อาจจะเปิดดนตรีเบาๆคลอไปด้วยก็ได้ หรือ จะจุดเครื่องหอมอย่างในสปาก็ตามแต่สะดวก และต้องอยู่ในชุดที่สบายๆ ไม่สวมเสื้อผ้าที่กระชับเกินไป ขั้นถัดไปคือ หาที่นั่งสบายๆ โดยไม่ต้องมีพนักพิงหลัง และสามารถใช้นั่งขัดสมาธิได้

เรื่องของสถานที่จะเป็นห้องนอน หรือว่าที่ไหนก็ได้ที่มีความสงบเงียบ สำหรับบางท่านที่รู้สึกว่าแสงสว่างมันทำการรบกวน จะหรี่ไฟลงเพื่อช่วยในการทำสมาธิ ก็ไม่ได้เป็นการผิดกติกา สภาพแวดล้อมถือว่าจำเป็นมากต่อผู้ที่เริ่มหัดนั่งเพราะ สิ่งเร้าต่างๆรอบตัวจะเป็นตัวขัดขวางชั้นเยี่ยม แก่ผู้ที่ไม่มีสมาธิ ที่กำลังแสวงหาสมาธิ

เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ก็กดคลิกเข้าไปดู… “หลักการทำสมาธิเบื้องต้น”