ปู สามารถแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยๆ ได้มากถึง 300 ชนิด ซึ่งสายพันธ์ส่วนใหญ่ของปูนั้น จะดำรงชีวิตอยู่ในทะเลทั่วโลก และจะมีอยู่ประมาณ 20 ชนิด ที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในน้ำจืด ในชั่วชีวิตหนึ่งของ ปูตัวเมีย จะสามารถออกไข่ ได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่จำนวนของไข่ที่ออกมานั้น จะมีปริมาณมหาศาล กว่าหลายหมื่นฟอง
ปู มีส่วนประกอบของวิตามินหลายชนิด และมี รดอะมิโนอิสระ 10 กว่าชนิด ที่สำคัญ ได้แก่ กรดกลูตามิก , กรดไกลซีน , กรดโพรลีน , กรดฮิสทิดีน , อาร์จินีน ทั้งนี้ค่าของกรดอะมิโนอิสระ จากตัวปูอาจไม่คงที่ตายตัว เนื่องจากการย้ายถิ่น ตามกลไกการป้องกันตัวตามธรรมชาติ ส่วน.. แอมโมเนีย จะถูกขับออกมามากกว่าปกติ
ปู (ข้อมูลต่อไปนี้ จะคำนวณจากค่าเฉลี่ยต่อน้ำหนัก 100 กรัม) จะมีสารประกอบอยู่ในตัวประมาณนี้คือ มีน้ำ 80 กรัม โปรตีน 14 กรัม ไขมัน 2.6 กรัม คาร์โบไฮเดรต 0.7 กรัม แคลเซียม 141 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 191 มิลลิกรัม เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม วิตามินเอ 230 หน่วยสากล วิตามินบี 0.01 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0.51 มิลลิกรัม กรดนิโคตินิก 2.1 มิลลิกรัม และ โคเลสเตอรอลเพียง 0.05%
ข้อควรระวัง จากการกินปูที่ไม่สด หรือ ปรุงไม่สุก
อาการเป็นพิษ มักจะเกิดขึ้นภายใน 14 ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากกินปูไปแล้ว โดยเริ่มแรก จะมีอาการปวดท้อง หลังจากนั้น จะมีอาการท้องเสีย ถ่ายเป็นมูกเลือด นอกจากนี้แล้ว อาจมีอาการอาเจียน มีไข้ ถ้าเป็นมาก จะเกิดอาการขาดน้ำ จนทำให้ร่างกายเกร็งทั้งตัว ความดันโลหิตลดลง แต่ถ้าหากรุนแรงมาก อาจถึงแก่ชีวิตได้
พยาธิในตัวปู โดยมากมักจะปะปนมากับ ปูน้ำจืด เป็นส่วนใหญ่ เรื่องสาเหตุอาจจะเกิดจาก ปูไม่สด หรือว่า สด แต่ปรุงไม่สุก ดังนั้น ก่อนที่จะกินเข้าไป ต้องแน่ใจก่อนว่า ปู ปรุงจนสุกได้ที่แล้ว จึงค่อยน้ำมาบริโภคครับ
ผู้ที่เป็นหวัด , อาหารไม่ย่อย มีอาการท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะอาหาร และ รู้สึกเย็นบริเวณท้อง ไม่ควรกินปู
=============== data .. https://www.facebook.com/ChivaArokhaya/ ===============
=============== photo …. https://www.bloggang.com/data/vinitsiri/ ===============