อยู่ว่างๆ ช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ อยากหาตังค์เพิ่ม
เห็นเค้าขายของออนไลน์ เค้าทำกันยังไงล่ะเนี่ย!!
วันนี้เพื่อนๆ คงบอกว่า แอด…มันมาแนวใหม่
มันไม่ได้มาเล่าเรื่องไลฟ์สไตล์เก๋ๆ ชิคๆ ชิลๆ หรือ DIY Tips แล้วรึ
ซึ่งแอ๊ดก็อยากจะบอกว่า
“ขายของออนไลน์นี่ก็อินเทรนด์ในยุคนี้” นะจ๊ะ
ปัจจุบันผู้คนมากมายเริ่มสนใจอยากเริ่มขายของออนไลน์
เพราะดูว่าทำได้ง่าย แถมไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก
แต่ที่จริงแล้ว การที่ร้านจะประสบความสำเร็จได้นั้น
จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวที่ดี เพราะไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะขาดทุน
จนอาจทำให้ต้องล้มเลิกไปได้ หรือเรียกง่ายๆ คือเจ๊งงงง พะย่ะค่ะ
มาดูเทคนิคเบื้องต้น สำหรับคนอยากทำ “ร้านค้าออนไลน์”
แบบมือใหม่ป้ายแดงกันดีกว่าฮะ
1. ขายอะไรดี…..
เรื่องนี้สำคัญ ถึงสำคัญมากๆๆๆๆ ครับ ใส่ตัวแดงๆ โตๆ ไว้ได้เลย
เบื้องต้นอาจจะเป็นสินค้าที่จะเลือกขายอาจ เป็นสิ่งที่ตัวเราชอบก่อนเพราะเราจะรู้รอบรู้ลึกเกี่ยวกับตัวสินค้านั้นๆ มากกว่าปกติ
เวลาจะนำเสนอข้อมูลการขายให้กับว่าที่ลูกค้า เราก็จะมีอินเนอร์
และยิ่งได้ขายสินค้าที่เราชอบ ก็เหมือนได้ทำสิ่งที่รัก
แต่ถ้าไม่ได้ชื่นชอบอะไรเป็นพิเศษ แค่อยากมีร้านค้าเป็นของตัวเอง
เพื่อนๆ ก็ควรจะเริ่มโดยการสำรวจตลาดว่าสินค้าอะไรกำลังเป็นที่ต้องการ และน่าจะทำกำไรได้ดี (ง่ายๆ คือส่วนต่างราคาซื้อมาถูก ขายแพงกว่าซื้อ)
ไม่ว่าคุณพี่จะเลือกขายอะไร อย่าลืมคิดถึงราคาต้นทุนและกำไรที่จะได้รับ เพราะการขายของออนไลน์มีการตัดราคากันอยู่บ่อยครั้ง
ทางที่ดีที่สุด คุณพี่ควรเริ่มด้วยสินค้าที่มีราคาต้นทุนต่ำไว้ก่อนนะจ๊ะ
แถมท้ายอีกนิดนึงจ้า อย่าลืมดูด้วยน้าว่าสินค้าจะขายส่งหรือขายปลีกแบบว่า ต่อชิ้นกำไรน้อย แต่ชั้นขายจำนวนมากๆ
อาจจะดีกว่า ขายเป็นชิ้นๆ แต่อยากได้กำไรเยอะๆ ก็เป็นได้ฮะ
2. ของพร้อม ก็เตรียมตัวตั้งร้าน ได้เล๊ย
ในโลกออนไลน์ปัจจุบัน ร้านค้าออนไลน์ทำได้ง่ายมากๆ
บางคนบอกว่า ก็แค่เปิดเว็บไซต์ หรือเปิดเพจบนเฟสบุ๊ค
หรือก็แค่ตั้งขายบน IG แค่นี้ก็มีร้านค้าออนไลน์และ
…..มันง่ายแค่นั้นจริงหรือ??
อ้าว!! ทำไมแอด…ตัดความหวังกันแบบนี้ล่ะ !!
เรื่องแรกสำหรับการตั้งร้านค้าออนไลน์ก็คือ “ชื่อร้าน” จ้า
ซึ่งส่วนใหญ่คนมักคิดว่า ชื่อร้านจะตั้งยังไงก็ได้
ยิ่งถ้าแปลกไม่ซ้ำใครยิ่งดี แต่แอ๊ดอยากจะบอกว่า
ไอ่พวกชื่อยากๆ แบบว่าท่องสิบทียังจำไม่ได้เลย อย่าได้ใช้เชียว
ตัวอย่างแอดเอง ก็อยากลองมีร้านค้าออนไลน์กะเค้าบ้าง
ก็เลยตั้งชื่อว่า www.zpindy.com มีที่มาของ “Z” มาจากยุค Gen Z
ผสมกับความว่า “Spin” ที่มีความหมายถึงการปั่น การหมุนติ้วๆ
และตัวที่ 3 คือคำว่า “Indy” ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีบุคลิกแบบอินดี้ๆ
หรือมีความเป็นตัวเองสูงๆ เก๋ๆ เท่ๆ ชิคๆ ฮิบๆ บราๆๆๆ
ข้อเท็จจริง ปรากฏว่าไอ่ชื่อร้านนี้ “ชื่อเรียกโคตรย๊ากกยากจ้า”
เพราะจริงๆ อยากให้อ่านว่า “สปินดี้ ดอทคอม”
แต่ไทยบางคนอ่าน “แซ่ดปินดี้” บ้าง
ลูกค้าต่างชาติ อ่านว่า “ซีปินดี้” บ้าง
โว๊ะ….ใครจะรู้เนอะว่าคนตั้งให้อ่านยังไง….เน๊อะ 555
แต่ที่สำคัญคือ ทำไปแล้ว จะโปรโมทกันอย่างไร
ทำอย่างไรให้รู้จัก ทำอย่างไรให้ดังมากกว่าฮะ
3.เลือกช่องทางร้านค้าออนไลน์ให้เหมาะ
เรื่องนี้ก็สำคัญไม่น้อยนะจ๊ะ เพราะการหาช่องทางการจัดจำหน่าย
เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จในการขายสินค้าออนไลน์
อย่างที่กล่าวไปแล้ว ว่าอาจจะมีทั้งบนเว็บไซต์ตัวเอง
ซึ่งก็เหมาะสำหรับคนที่มีทุนซักนิดนึง อยากได้ความยั่งยืนของธุรกิจ
ก็ควรจะมีเว็บไซต์ขายของเป็นเรื่องเป็นราวนะจ๊ะ
เปิดเพจบนเฟสบุ๊ค ….เหมาะสำหรับมือใหม่ป้ายแดง
ที่กำลังอยากหัดขายสินค้าออนไลน์ เพราะการเปิดแฟนเพจ
บนโปรแกรม Facebook นั้น สามารถสร้างช่องทางเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ง่ายกว่าช่องทางอื่นๆ เมื่อเทียบกับเว็บไซต์หรือ IG หรือ Youtube เพราะคุณมาร์ก เค้าพัฒนาสามารถให้พี่ๆ ลงโฆษณา
ได้ตามงบและตามกลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเองแถมยังอัพเดทได้ง่ายด้วย ส่วนเทคนิคการทำร้านค้าบนเฟสให้เด็ดยังไง ไว้มาต่อกันภาค 2 น้า
4. ควรมีแผนการตลาดและเทคนิคทางการสื่อสารให้เริ่ดๆ
เพราะแผนการตลาดที่เด็ด และน่าตื่นเต้น
จะกำหนดโอกาสร้านค้าออนไลน์ของเรา
ทำอย่างไรให้ดึงดูดความสนใจของลูกค้า
ไม่ใช่แค่ขายของดี ราคาถูกแล้วจะรวยนะจ๊ะ
แต่เราควรวางแผนการโปรโมตร้านค้าหรือสินค้าด้วย
ตั้งหลักเบื้องต้นไว้ว่า จะทำอย่างไรให้คนรู้จักร้านของเรา
เค้ารู้จักเราแล้ว ซื้อของไม๊ ทำไมถึงซื้อ ทำไมถึงไม่ซื้อ
ควรมีการวางแผนให้ดี มีการประเมิน ตรวจสอบ และปรับปรุงเรื่อยๆ
5.วิธีการชำระเงิน
เรื่องนี้มาถึงจุดก่อนเกือบสุดท้ายและ แต่ห้ามพลาดเลยนะ
การชำระเงินควรเป็นเรื่องง่ายสำหรับลูกค้า
ควรมีการเปิดบัญชีสำหรับร้านกับธนาคารที่คนส่วนใหญ่ใช้บริการ
หรือมีไว้หลายๆ แบงก์ ให้เลือกกันให้หนำใจ
ส่วนถ้าใครมีระบบ E-payment ตัดระบบบัตรเครดิตได้ก็ยิ่งสะดวก
6. การจัดส่งสินค้า
หลายร้านค้าออนไลน์ ตกม้าตายในเรื่องนี้เลยจ้า
พอเริ่มมีลูกค้าเริ่มสั่งสินค้าออนไลน์เข้ามาแล้ว
ปรากฏว่า ราคาสินค้า ลืมรวมคำนวณค่าจัดส่งฮะ
สินค้าบางอย่างขนาดเล็ก น้ำหนักเบา จัดส่งไปรษณีย์ก็ไม่แพง
แต่บางอย่างของหนัก ของใหญ่ จัดส่งไปรษณีย์เริ่มต้นทุนสูง
แล้วกลับมาชาร์จลูกค้าทีหลังโดยไม่ได้บอก
คำตอบคือ “ซวย” นะครับ เพราะจะโดนลูกค้าร้องเรียน
หรือโดนกระหน่ำบนเว็บ หรือเพจต่างๆ ให้เสียชื่อกันไป
ดังนั้นในส่วนนี้ต้องลองศึกษาให้ชัดๆนะครับ
ว่าจะส่งทางไหน จะเป็นลงทะเบียน หรือส่ง EMS
หรือจะส่งผ่านขนส่งเอกชน ด่วนหรือไม่ด่วน
ของจะส่งถึงภายในกี่วัน หลังจากที่ลูกค้าสั่ง
ที่สำคัญคือ “ราคาค่าส่งเท่าไหร่” รวมในราคาขายหรือไม่
ต้องบอกให้หมด ห้ามหมกเสมือนให้เค้ารู้เองเด็ดขาดครับ
ง่ายๆคือ นึกว่าเป็นตัวเราสั่งสินค้าออนไลน์ซักเจ้า
แต่พอถึงมือ ราคาไม่ใช่อย่างที่คุยกัน เราจะหงุดหงิดมั๊ย
ใจเขาใจเรา ยิ่งเข้าใจลูกค้า ลูกค้ายิ่งรักเราฮะ
7. เวลาและการทุ่มเทของเจ้าของร้าน
หนทางไกลหมื่นลี้ เริ่มต้นด้วยก้าวแรก !!!
ธุรกิจก็เช่นกันนะครับ เราต้องเริ่มต้นกันด้วยก้าวแรกเสมอ
อาจจะลองผิด ลองถูก แต่ที่สำคัญคือค้นหาข้อมูล ดูคู่แข่ง
“อย่ามโนเอาเอง” คิดว่า มันต้องแบบนั้นสิ แบบนี้สิ
มันอาจจะใช่ ก็ดีไป แต่ถ้ามันไม่ใช่ ก็เจ๊งอีก
การลงทุน ทุกคนต้องการผลเป็นกำไรตั้งแต่วินาทีที่เราเริ่มเปิดร้าน
แต่นั่นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นความเพ้อฝัน เพราะเมื่อเราเริ่มเปิดร้าน
ก็ย่อมที่จะไม่มีใครรู้จักเรา บางคนก็อาจสนใจสินค้า แต่ไม่ซื้อ
แล้วอาจจะมาแวะดูบ่อยๆ จนมั่นใจ แล้วกลายเป็นลูกค้าเราในอนาคตและอาจจะพาเพื่อนๆ เป็นลูกค้าเราได้อีกเช่นกัน โดยการบอกต่อ
ข้อเสนอแนะสำหรับส่วนตัว อีกประการนะครับ
ณ เวลานี้เศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ค่อยดีนัก
คนก็ไม่ค่อยอยากจับจ่ายใช้สอยกันเท่าไหร่
แต่สินค้าใด ที่เป็นที่ต้องการ และดึงดูดใจ
พวกเขาเหล่านั้นก็ยังมีความอยากได้อยู่เช่นกัน
ส่วนใครที่คิดว่า ชั้นเบื่องานเต็มที่แล้ว อยากลาออก
มาขายสินค้าออนไลน์กับเค้าบ้าง เพราะเห็นคนอื่นรวย
ก็ต้องบอกว่า “ลอง” ฝึกทำเล็กๆ ดูก่อน นะครับ
อย่าพึ่งวู่วามเชียว เพราะคนทำร้านออนไลน์แล้วเจ๊ง
โดยที่ไม่ได้บอกพี่ๆ ออกสื่อก็ถมเถไปครับ
ส่วนใครที่ทำร้านค้าออนไลน์แล้วประสบความสำเร็จ
หรือติดปัญหาอะไร อยากจะลองมาคุยกันหาไอเดีย
แอดมินก็ยินดีนะครับ
สู้ๆนะครับ แต่จะเป็น SMEs ต้องสู้อย่างถูกทาง
มิเช่นนั้น ท่านจะหมดแรงเปล่าๆครับ
#คำคม
#AboutInspire
#AboutLiving.Asia