กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ร่วมกับ สถาบัน Urban Innovation Vienna และ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็น The Most Livable City in the World และเป็นเมืองอัจฉริยะ ชั้นนำของโลกด้วยความโดดเด่นด้านการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานของเมืองและการคมนาคมทุกรูปแบบเข้าเป็นระบบเดียวกัน ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในการจัดทำนโยบายในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “Smart City Framework Development Workshop” เพื่อจัดทำแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของประเทศ โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันชั้นนำและหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานที่ผลักดันการพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้แก่กรุงเวียนนามาร่วมสัมมนาในครั้งนี้ด้วย
ดร. พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า นับเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยที่ได้รับความร่วมมือจากกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ในการร่วมหารือกับผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันชั้นนำและหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อนำข้อดีมาปรับใช้กับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของประเทศไทย โดยไอเดียที่ได้จากการพูดคุยในครั้งนี้คือการจัดทำ showcase Smart City ทั้ง 7 ด้าน เพื่อให้ไอเดียกับจังหวัดต่างๆ ในการเอาไปประยุกต์ใช้กับจังหวัดของตนเอง เช่น เรื่องของ City Data Platform การใช้ Big data ในการวิเคราะห์ความต้องการของชุมชน และความร่วมมือจากภาคเอกชนซึ่งนับเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการสนับสนุน และร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว ร่วมกับภาครัฐซึ่งมีบทบาทให้การสนับสนุนด้านนโยบาย ทั้งนี้การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “Smart City Framework Development Workshop” ในครั้งนี้ต้องขอบคุณผู้เชี่ยวชาญจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ที่มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ที่ผลักดันการพัฒนาเมืองอัจฉริยะมาอย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายนี้หวังว่ากลุ่มผู้บริหารเมืองจากจังหวัดต่างๆ ที่เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ จะสามารถนำประสบการณ์และการจัดทำแผนยุทธ์ศาสตร์ของการประยุกต์ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ นำไปต่อยอดในการทำแผนงานในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะได้ต่อไป โดยทางกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) พร้อมสนับสนุนยินดีอย่างเต็มที่
ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า สำหรับแนวทางการผลักดันการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ได้ดำเนินการผ่านคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ที่ทาง depa ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ร่วมกับ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ได้ร่วมดำเนินการ เริ่มจากการจัดตั้ง Project Management Committee จัดทำแผนในระดับพื้นที่ จากนั้นจึงทำการประกาศในเชิงนโยบาย และหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ในการออกมาตรการสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี เป็นต้น จากนั้นจึงขยายผลด้วยการสร้างเครือข่าย โดยเบื้องต้นจะเป็นระดับภูมิภาคในแถบเอเชีย ตามแผน ASEAN Connectivity 2019
สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ ดีป้า ได้ดึงผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันชั้นนำและหน่วยงานท้องถิ่นจากกรุงเวียนนาและผู้เชี่ยวชาญในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของประเทศไทย ร่วมถอดบทเรียนและถ่ายทอดองค์ความรู้ เครื่องมือ ตลอดจนกลยุทธ์เพื่อความสำเร็จ จากประสบการณ์และการจัดทำแผนยุทธ์ศาสตร์ของการประยุกต์ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยยกตัวอย่างความสำเร็จจริงของกรุงเวียนนาให้แก่กลุ่มผู้บริหารของเมือง ประกอบไปด้วย กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา เมืองแหลมฉบัง เมืองแสนสุข จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ จังหวัดสงขลา จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดยะลา จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดพิษณุโลก
พร้อมกันนี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริหารเมืองได้นำเสนอและจัดทำแผนนโยบาย แผนยุทธศาสตร์ และกรอบการดำเนินงาน (Framework) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ อันเป็นการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะต้นแบบของประเทศไทย ในการนี้ ดีป้าพร้อมต่อยอดการสร้างเมืองอัจฉริยะให้เป็นรูปธรรม ผ่านเวทีการประกวดในการจัดทำแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และสิทธิ์ในการได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะแห่งชาติ ต่อไป